เส้นทางท่องเที่ยวทางบก เพลิดเพลิน 3 ตำบล เพื่อนบ้านโรงไฟฟ้าพระนครใต้

เที่ยวเพลินกับชุมชน 3 บาง เรียนรู้ภูมิปัญญาและชมการพัฒนานวัตวิถี

 ชุมชน 3 บาง ได้แก่ ชุมชนบางโปรง ชุมชนบางหัวเสือ และชุมชนบางด้วน เพื่อนบ้านรั้วชิดติดกันของโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ ที่มีกำลังการผลิตสูงเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศ ซึ่งไม่ต้องเป็นกังวลเลยว่าพี่ใหญ่จะไม่ดูแล เพราะทั้ง 3 ชุมชนนั้น ได้รับการสนับสนุนในทุก ๆ ด้านจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เพื่อให้ทุกคนในชุมชนได้รับคุณภาพชีวิตที่ดี รวมไปถึงช่วยเปิดโอกาสให้กับเยาวชนของชุมชนได้เข้าถึงสิ่งที่ดีและเหมาะสมเพิ่มขึ้นอีกด้วย

 ปฎิเสธไม่ได้เลยว่า วิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนในชุมชนนั้นมีความสุขมากขึ้น มีอาชีพ มีการศึกษา มีสุขภาพที่ดีขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากการโครงการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจากความห่วงใยของโรงไฟฟ้าพระนครใต้มาโดยตลอด จึงทำให้การท่องเที่ยวเชิงวิถีชุมชนเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมาก

เส้นทางท่องเที่ยวทางบก ที่ลัดเลาะชุมชนทั้งสามตำบล เชื่อมโยงกันโดยวิถีความเป็นอยู่ ได้เรียนรู้ครอบคลุมทั้งประวัติศาสตร์ วิถีชีวิต นวัตวิถี วัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม โดยจะเริ่มต้นเส้นทางช่วงเช้ากันที่วัดบางหัวเสือ ไหว้พระ ทำบุญและเข้าชมภายในอุโบสถจะพบกับศิลปกรรมปูนปั้นสร้างแล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2549 ของช่างสิบหมู่จากจังหวัดเพชรบุรี บนผนังทั้งสี่ด้านเล่าเรื่องราวพุทธประวัติตั้งแต่พระพุทธเจ้าประสูติ ตรัสรู้และปรินิพพาน นับว่าเป็นผลงานปูนปั้นสดเพียงแห่งเดียวของประเทศไทย ซึ่งยังคงสวยสดงดงาม ปราณีตและไม่มีที่อื่นใดเหมือน

เดินลงอุโบสถวัดบางหัวเสือ ใกล้กันกับกำแพงวัดจะพบกับ ตลาดน้ำโบราณบางหัวเสือ (เปิดเฉพาะวันหยุดสุดสัปดาห์เท่านั้น) ชาวบ้านในชุมชนบริเวณนั้นจะมาขายของท้องถิ่นกันที่ ตลาดน้ำโบราณบางหัวเสือ กันอย่างคึกคัก ภายในตลาดมีทั้งขนม ของกินท้องถิ่น สิ่งประดิษฐ์ หรือผลิตภัณฑ์จากภูมิปัญญาและการนำทรัพยากรที่มีในท้องถิ่นมาแปรรูป แม้ว่าจะเป็นตลาดน้ำที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก หากสังเกตและได้สัมผัสบรรยากาศที่ชาวบ้านทุกคนยิ้มแย้ม ต้อนรับนักท่องเที่ยวแล้ว นั่นแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจและการเป็นเจ้าบ้านที่ดีของชุมชน แล้วอย่าลืมอุดหนุนชาวบ้าน ซื้อของกิน ของใช้หรือของที่ระลึก ที่สำคัญต้องตุนเสบียงไว้นั่งทานริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่ท่าน้ำวัดบางฝ้ายด้วย

จากชุมชนบางหัวเสือ ลัดเลาะถนนคอนกรีตตามป้ายวัดบางฝ้ายไปเรื่อย ๆ ชมบรรยากาศสองข้างทางผ่านบ้านเรือนของชาวบ้าน ชมวิถีชีวิตชาวปากน้ำ และเมื่อไปจนสุดถนน จะพบกับ วัดบางฝ้าย ที่อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา และติดกับโรงไฟฟ้าพระนครใต้ มีเพียงคลองบางฝ้ายกั้นเท่านั้น ถึงจุดนี้ ให้ไหว้หลวงพ่อนาคใหญ่ พระประธานเก่าแก่ตั้งแต่สมัยอยุธยาในอุโบสถ จากนั้นแวะพักทานขนมของว่างริมแม่น้ำเจ้าพระยา ชมบรรยากาศแม่น้ำที่เรือสินค้าและเรือชาวบ้านแล่นล่องไปมา

ย้อนกลับไปตามถนนที่มาจากวัดบางหัวเสือประมาณ 200 เมตร จะเจอทางแยกและป้ายบอกทางไปยังวัดบางโปรง ให้เลี้ยวขวาผ่านชุมชน ข้ามคลองบางฝ้าย โดยผ่านทางเข้าของโรงไฟฟ้าพระนครใต้ จนพบกับ วัดบางโปรง วัดที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดของจังหวัดสมุทรปราการ บรรยากาศร่มรื่นของต้นไม้ใหญ่ พักผ่อนให้หายเหนื่อยในศาลาการเปรียญ แล้วเข้าไปสักการะหลวงพ่อกั่ว เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย สมัยอยุธยา มีอายุประมาณ 300 ปีเศษ เดิมชำรุดช่างจึงบูรณะด้วยตะกั่วจึงเรียก “หลวงพ่อกั่ว” เป็นพระพุทธรูปที่ชาวบางโปรงและชุมชนใกล้เคียงให้ความเคารพนับถือเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ชุมชนบางโปรงยังมีผลิตภัณฑ์ชุมชนที่วางจำหน่ายในบริเวณวัดและในชุมชน ซึ่งผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อก็คือ กระเป๋าผ้าแฮนด์เมด ผ้ามัดย้อมสีธรรมชาติ และขนมโบราณบ้านภู่

เรียนรู้วิถีชุมชนบางโปรงเสร็จแล้ว เป้าหมายถัดไปคือชุมชนบางด้วน ชุมชนที่ยังคงอนุรักษ์ป่าชายเลน และมีป่าจากผืนใหญ่ จุดเริ่มต้นทางเดินศึกษาธรรมชาติป่าชายเลนชุมชนบางด้วน อยู่ที่วัดบางด้วนนอก ระยะทางเพียง 500 เมตร ก็จะถึงศาลาจากใจ ริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่สามารถนั่งชมพระอาทิตย์ตกได้อีกด้วย แต่ชุมชนบางด้วนไม่ได้มีเพียงกิจกรรมเดียว ยังมีกิจกรรมสำหรับเด็ก ๆ และครอบครัวอีกด้วย กิจกรรมที่สนุกสนานกันทั้งครอบครัวนั่นคือกิจกรรมทำผ้ามัดย้อม ระบายสีผ้าบาติก และทำผลิตภัณฑ์เครื่องจักสานโดยใช้ใบจากที่อยู่ในชุมชน และกิจกรรมพายคายัคชมระบบนิเวศน์ในคลองบางนางเกร็งอีกด้วย

ถึงเวลาเย็นย่ำ ซึ่งเหมาะกับการเดินเล่นหรือนั่งพักผ่อน ให้ย้อนกลับไปที่โรงไฟฟ้าพระนครใต้ จะมีถนนที่เลี้ยวเข้าสวนบางโปรง สวนสาธารณะชุมชนแห่งใหม่ที่เกิดจากโครงการเพื่อสังคมของ กฟผ. ใช้เวลายามเย็นพักผ่อน ผ่อนคลายให้เต็มที่หลังจากเที่ยวชุมชนรอบโรงไฟฟ้า นับว่าเป็นการใช้เวลาหนึ่งวันที่มีคุณภาพ ที่ได้ทั้งบุญ ความรู้เกี่ยวกับวิถีชุมชน นวัตวิถีและระบบนิเวศน์ปากแม่น้ำเจ้าพระยา