เส้นทางท่องเที่ยวสมุทรปราการ เส้นทางที่ 4
เที่ยวชมจระเข้ แวะบูชาช้างสามเศียร หาของกินให้อิ่มท้อง
ฟาร์มจระเข้สมุทรปราการ
เรามาเริ่มกันที่สถานที่แรกเลยนั่นก็คือ ฟาร์มจระเข้สมุทรปราการนั่นเอง ตั้งอยู่ถนนท้ายบ้าน ตำบลท้ายบ้าน ห่างจากตัวเมืองประมาณ 3 กิโลเมตร หรือสามารถเข้าทางถนนสุขุมวิท (สายเก่า) เทศบาลบางปูซอย 46 ตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2493 ปัจจุบันเป็นฟาร์มจระเข้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ภายในเป็นสถานเพาะเลี้ยงจระเข้ขนาดต่าง ๆ กว่า 60,000 ตัว นอกจากการเลี้ยงจระเข้แล้ว ภายในฟาร์มยังมีสัตว์อื่น ๆ อีก เช่น เสือ ลิงชิมแปนซี ชะนี เต่า งู นก อูฐ ฮิปโปโปเตมัส กวาง และปลาจำนวนมาก นอกจากนี้ยังสามารถเข้าชม พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ จัดแสดงกระดูกและหุ่นจำลองไดโนเสาร์ พร้อมการฉายสไลด์มัลติวิชั่น เรื่องของมนุษย์และสัตว์ดึกดำบรรพ์ด้วย (ปัจจุบันปิดดำเนินการแล้ว)
พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ
พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ มีการออกแบบพื้นที่จัดแสดงโบราณวัตถุ และงานวิจิตรศิลป์แห่งศิลปะไทยออกเป็น 3 ส่วน ตามแนวคิดจากคัมภีร์ไตรภูมิกถา ที่แบ่งภพภูมิเป็นสามส่วน ได้แก่ ชั้นบาดาล โลกมนุษย์ และสวรรค์ ในส่วนชั้นล่างสุดที่เป็นชั้นใต้ดินหรือบาดาล เรียกว่า ชั้นสุวรรณภูมิ ออกแบบเป็นพื้นที่สำหรับแสดงความเป็นมาของพิพิธภัณฑ์และเก็บโบราณวัตถุต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก อาทิ พระพุทธรูปและเทวรูปสมัยต่าง ๆ รวมถึงเครื่องกระเบื้องประเภท เครื่องสังคโลก ภาชนะเครื่องกระเบื้องแบบลพบุรี เครื่องเบญจรงค์ และเบญจรงค์ลายน้ำทอง ซึ่งสะท้อนถึงความหมายทางวัฒนธรรมของคนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตามโบราณเรียกว่าดินแดน “สุวรรณภูมิ”
บริเวณชั้นกลางของอาคารที่รองรับตัวช้างคือ ชั้นโลกมนุษย์ ได้รับการออกแบบเป็นอาคารทรงโดมที่ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นทางเข้าพระสุเมรุ ภายในบริเวณชั้นนี้จะผสมผสานไปด้วยศาสตร์และศิลป์หลากหลายรูปแบบทั้งงานประณีตศิลป์แบบไทยและศิลปะแบบตะวันตก โดยการแสดงเรื่องราวสะท้อนแก่นพระศาสนาที่ค้ำจุนโลกมนุษย์ให้เกิดศานติผ่านเสาเคาะดุนโลหะภายในอาคารเป็นภาพเรื่องราวที่แฝงไว้ด้วยคติธรรมทางศาสนาต่าง ๆ
ส่วนจัดแสดงที่สามในบริเวณชั้นบนสุดได้รับการออกแบบให้เป็นชั้นจักรวาลหรือสวรรค์ ซึ่งเป็นส่วนที่อยู่เหนือโลกมนุษย์ขึ้นไปตามคติในไตรภูมิ โดยเป็นบริเวณที่อยู่ภายในตัวอาคารส่วนของท้องช้าง สำหรับเป็นพื้นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุและพระพุทธรูปโบราณตามสมัยต่าง ๆ พร้อมตกแต่งเพดานและผนังภายในห้องด้วยภาพเขียนสีฝุ่นรูปสุริยจักรวาลที่สวยงาม บอกเลยว่าน่าเกรงขามและเคารพบูชามาก ๆ เลย
ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง
หลังจากที่เราไปสถานที่ทำบุญกันมาแล้วนั้น ทุกคนคงจะเริ่มหิวกันแล้วเราจึงขอแนะนำสถานที่ขายของกินและของอร่อยต่อเลยนั่นคือตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง แลนด์มาร์กสุดร่มรื่นของจังหวัดสมุทรปราการ จุดเด่นของที่นี่คือชูเสน่ห์ของชุมชนที่เป็นเอกลักษณ์เรียบง่ายสไตล์บ้าน ๆ ผสานความเปลี่ยนแปลงของยุคสมัยได้อย่างกลมกลืน และไม่ได้เป็นแค่แหล่งรวมของอร่อยเท่านั้นเพราะตลาดแห่งนี้ยังมีกิจกรรมสนุก ๆ ให้ทำจนลืมเวลา สินค้าที่นำมาวางขายมีให้เลือกละลานตา โดยเฉพาะพืชผักสวนครัวที่คุณตาคุณยายหิ้วตะกร้ามาวางขาย หรือพวกอาหารปรุงสำเร็จก็มีทั้งอาหารโบราณ
อาหารพื้นบ้าน อาหารทั่วไป รวมถึงของว่าง-ขนมขบเคี้ยวกินเล่นที่บางอย่างหากินได้ยากเต็มที ยังไม่รวมของใช้-ของแต่งบ้าน งานฝีมือสวยงามแปลกตา และสินค้าโอทอปที่จะทำให้กระเป๋าลั่นได้ตลอดเส้นทาง เราขอนำเสนอ ร้องเพลง – เต้นรำ กิจกรรมสุดคึกคักที่เราชอบมาก ถือเป็นเวทีที่สร้างสีสันให้กับตลาดได้มากโขเลย ใครเดินชมตลาดนาน ๆ อยากพักขา
หรือซื้อหาของกินก็แวะมานั่งชิลไปพร้อมกับฟังเพลงรำวงชะชะช่า ที่จะมีคุณพี่ คุณลุง คุณป้า คุณน้า คุณอา ขึ้นมาโชว์ลีลาพลิ้วไหวไปกับเสียงเพลง ทำเอาเราเผลอขยับแข้งขา ออกท่าออกทางแบบไม่รู้ตัว และสุดท้ายกิจกรรม ปั่นจักรยาน กิจกรรมสุดฮอตที่ได้ทั้งความสนุกและสุขภาพดี และยังได้ชมวิวสวย ๆ ตลอดเส้นทางที่เราจะได้ลัดเลาะไปในชุมชนรอบเกาะบางกระเจ้า พื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์ด้วยต้นไม้และสายน้ำ อากาศบริสุทธิ์ที่หายใจสดชื่่นได้เต็มปอด ปั่นไปจอดถ่ายรูปไป ไม่มีเบื่อ
บ้านสาขลา
ที่นี่เคยเป็นเมืองลับแลที่ซุกซ่อนความงดงามเอาไว้อยู่ในสายน้ำ ปัจจุบันหมู่บ้านสาขลาเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นในหมู่นักท่องเที่ยว ด้วยความโด่งดังของวัดสาขลา วัดประจำหมู่บ้านที่เป็นดั่งศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้านทุกคน โดยรวมแล้วหมู่บ้านสาขลาแห่งนี้คือที่เที่ยวใกล้กรุงเทพที่สามารถเดินทางมาเที่ยวได้แบบชิล ๆ ใช้เวลาแค่วันเดียวเท่านั้น ที่นี่ยังคงมีธรรมชาติที่สมบูรณ์แบบ มีป่าชายเลน มีแม่น้ำ มีสถาปัตยกรรมอันงดงาม และมีวิถีชีวิตริมน้ำสุดคลาสสิคให้เราได้ชม ที่สำคัญที่นี่ยังคงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ยังคงดิบใหม่อยู่ มีผู้คนรู้จักไม่มากนัก ทำให้ยังคงไว้ได้ซึ่งความสงบ ผู้คนน่ารักเป็นมิตร
และพร้อมที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยวเสมอ ตลาดโบราณบ้านสาขานั้น เดินเข้ามาในตลาดก็จะเจอกับกุ้งเหยียดที่ขายกันอยู่ค่อนข้างหลายร้านเลือกซื้อได้เลย สำหรับกุ้งเหยียดนี้เป็นผลิตภัณฑ์หลักของตลาดน้ำหมู่บ้านสาขลาเลยก็ว่าได้ (ผมลองชิมแล้วอร่อยมาก) แถมราคาถูกถุงละ 100 บาทเอง เดินรอบ ๆ ตลาด จะมีร้านค้าหลากหลายร้านขายอาหารที่ทำกันสดร้อน ๆ น่ากินมาก เช่น ขนมครก ผัดไทย ขนมหวาน และอื่น ๆ อีกมาก โดยเฉพาะขนมหวาน แม่ค้าให้ชิมก่อนซื้อด้วยอร่อยมาก ก๋วยเตี๋ยวในตลาดน้ำนี้ก็มีร้านให้เลือกรับประทานกันเยอะมากโดยเฉพาะก๋วยเตี๋ยวเนื้อหมูสดอร่อยดี รวมไปถึงร้านอาหารตามสั่งต่าง ๆ ก็มีเยอะไม่แพ้กัน