เส้นทางท่องเที่ยวทางน้ำ ล่องเรือเที่ยวเมืองปากน้ำริมสองฝั่งเจ้าพระยา

ล่องแม่น้ำเจ้าพระยา ศึกษาประวัติศาสตร์ แวะกราบพระเพิ่มแต้มบุญ อุดหนุนชุมชนคนสามบาง ชมป่าจากป่าชายเลน

แผนที่เส้นทางท่องเที่ยวทางน้ำ ปากแม่น้ำเจ้าพระยา

 แม่น้ำเจ้าพระยา เปรียบเสมือนเส้นเลือดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงชีวิตของผู้คนทั้งประเทศ เพราะทุกคนล้วนได้รับประโยชน์จากแม่น้ำเจ้าพระยาไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมก็ตาม ยกตัวอย่างเช่น การทำเกษตรกรรมของภาคกลาง หรือการผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าพระนครใต้ ซึ่งผลิตไฟฟ้าฐานให้กับประเทศ จำเป็นต้องใช้น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยามาใช้ในระบบการผลิตไฟฟ้าทั้งสิ้น

เมื่อการที่ทุกคนใช้ประโยชน์จากแม่น้ำเจ้าพระยามาโดยตลอด เราจึงต้องดูแลรักษาและมีความรู้ความเข้าใจต่อระบบนิเวศน์และวิถีชุมชมด้วยเช่นกัน การท่องเที่ยวจึงเป็นวิธีที่สามารถเข้าถึงได้ทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็น วิถีชีวิต วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ ระบบนิเวศน์และสิ่งแวดล้อม ดังนั้นเส้นทางท่องเที่ยวทางน้ำที่นำเสนอนี้ เป็นการท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง

ศิลปกรรมฝาผนังปูนปั้นสดในอุโบสถวัดบางหัวเสือ
ที่มา: สมุทรปราการเมืองน่าอยู่

เส้นทางท่องเที่ยวทางน้ำ สามารถเหมาเรือได้ที่ท่าน้ำวัดบางหัวเสือ ซึ่งจะมีชาวบ้านคอยให้บริการอยู่ตลอด เรือที่เหมาจะสามารถโดยสารได้ไม่เกิน 10 ท่าน สามารถมั่นใจได้ว่ามีความปลอดภัย เพราะโดยปกติจะให้บริการข้ามฟากไปอำเภอพระประแดงที่อยู่อีกฝั่งของแม่น้ำเจ้าพระยา แต่ก่อนที่จะล่องเรือ ให้แวะวัดบางหัวเสือ ซึ่งมีพิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน ที่รวบรวมของเก่าล้ำค่าไว้มากมาย และชมศิลปกรรมปูนปั้นในอุโบสถ ที่มีเพียงแห่งเดียวคือที่วัดบางหัวเสือเท่านั้น นอกจากนั้นบริเวณวัดยังมีตลาดน้ำโบราณบางหัวเสือ (เปิดเฉพาะวันหยุดสุดสัปดาห์เท่านั้น) ภายในตลาดมีทั้งขนม ของกินท้องถิ่น สิ่งประดิษฐ์ หรือผลิตภัณฑ์จากภูมิปัญญาและการนำทรัพยากรที่มีในท้องถิ่นมาแปรรูป แนะนำว่าให้ตุนเสบียงก่อนลงเรือไว้ให้พร้อม เพราะจะได้ไม่หิวระหว่างทาง

กิจกรรมระบายสีผ้าบาติกของชุมชนบางด้วน
กิจกรรมระบายสีผ้าบาติกของชุมชนบางด้วน
ที่มา: Facebook บางด้วน ของดี บ้านฉัน วิถีชุมชนคนทำจาก

เมื่อถึงเวลาลงเรือ ผู้ควบคุมเรือและผู้ช่วยจะแนะนำการสวมเสื้อชูชีพและแนะนำความปลอดภัยให้แก่ผู้โดยสารทุกท่าน ก่อนจะออกเรือจากท่าน้ำวัดบางหัวเสือ มุ่งหน้าไปทางปากแม่น้ำเจ้าพระยา ผ่านวัดบางฝ้าย โรงไฟฟ้าพระนครใต้ และจอดแวะที่ศาลาจากใจ จุดนี้จะมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติป่าชายเลนชุมชนบางด้วน เส้นทางยาวประมาณ 500 เมตร ไปจรดวัดบางด้วนนอก วัดเก่าแก่สมัยอยุธยา มีหลวงพ่อดำ ให้กราบไหว้สักการะเพื่อเป็นสิริมงคล หากใครชอบทำกิจกรรม ชุมชนบางด้วนยังมีกิจกรรมให้เลือกหลากหลาย เช่น สอนการปลูกต้นไม้ สอนทำหูหิ้วแก้วน้ำ ทำจานจากใบไม้ เครื่องจักสาน ระบายสีผ้าบาติก ผ้ามัดย้อมจากลูกจาก หรือกิจกรรมพายเรือคายัคในคลองบางนางเกร็งชมป่าจากป่าชายเลนของชุมชน กิจกรรมของชุมชนบางด้วน สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลและจองคิวล่วงหน้า ผ่านกำนันโต้ง โดยตรงได้ที่เบอร์ 0814900222

ภายในพิพิธภัณฑ์ทหารเรือ
ภายในพิพิธภัณฑ์ทหารเรือ
ที่มา: สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสมุทรปราการ

เดินให้ได้เหงื่อกลับมายังศาลาจากใจเพื่อขึ้นเรือ ล่องแม่น้ำเจ้าพระยาต่อไปยังพิพิธภัณฑ์ทหารเรือ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 10 นาที ที่พิพิธภัณฑ์ทหารเรือ เป็นแหล่งรวบรวมประวัติศาสตร์ของกองทัพเรือไทย ทั้งโบราณวัตถุ โบราณคดีหรืออาวุธยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ ที่เคยใช้ในการรบเพื่อป้องกันประเทศเป็นจำนวนมาก แล้วไฮไลต์สำคัญก็คือ เรือดำน้ำนามว่า เรือหลวงมัจฉานุ ซึ่งเป็นเรือดำน้ำรุ่นแรกของกองทัพเรือไทย

ประเพณีห่มผ้าพระสมุทรเจดีย์
ประเพณีห่มผ้าพระสมุทรเจดีย์
ที่มา: สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสมุทรปราการ

กลับมาขึ้นเรือเพื่อข้ามฟากไปยังอำเภอพระสมุทรเจดีย์ ซึ่งมีสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจอยู่ไม่ไกลกัน คือ พระสมุทรเจดีย์ และป้อมผีเสื้อสมุทร ทั้งสองสถานที่ล้วนเต็มไปด้วยเรื่องราวที่สำคัญกับประวัติศาสตร์ชาติไทย โดยตามพงศาวดาร รัชกาลที่ 2 โปรดเกล้าให้สร้างเมืองสมุทรปราการขึ้นที่ตำบลปากน้ำและทรงสร้างพระมหาเจดีย์ขึ้น แล้วพระราชทานนามว่า “พระสมุทรเจดีย์” แต่มักถูกเรียกว่า “พระเจดีย์กลางน้ำ” เพราะแต่เดิมพระสมุทรเจดีย์ตั้งอยู่บนเกาะที่มีน้ำล้อมรอบ ในภายหลังมาชายตลิ่งฝั่งขวาของแม่น้ำตื้นเขินมากขึ้นเรื่อย ๆ จากตะกอนปากแม่น้ำ จนกระทั่งเชื่อมแผ่นดินกับเกาะที่ตั้งของพระเจดีย์เป็นผืนเดียวกัน โดยมีประเพณีสำคัญคือ แห่ผ้าห่มองค์พระสมุทรเจดีย์ (งานนมัสการองค์พระสมุทรเจดีย์) จัดขึ้นในวันแรม 5 ค่ำ เดือน 11 ในส่วนของป้อมผีเสื้อสมุทร มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์กับการป้องกันประเทศ โดยป้อมแห่งนี้เคยทำการยิงต่อสู้กับเรือรบฝรั่งเศส 2 ลำ ที่ล่วงล้ำเข้ามาในแม่น้ำเจ้าพระยาเมื่อสมัยรัชกาลที่ 3

หอชมเมืองสมุทรปราการ
ที่มา: สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสมุทรปราการ

ข้ามฟากกลับมาฝั่งอำเภอเมือง เพื่อไปชมวิวทิวทัศน์บนหอชมเมืองสมุทรปราการ ที่มองเห็นได้ 360 องศา ภายในมี 4 โซน คือ พิพิธภัณฑ์เด็ก พิพิธภัณฑ์สมุทรปราการ ห้องสมุด และหอชมเมือง แนะนำว่าไม่ควรพลาดที่จะขึ้นไปชม เพราะด้านบนนั้นสามารถมองเห็นไปไกลถึงคุ้งบางกระเจ้าไปจนถึงปากอ่าวไทยเลยทีเดียว หลังจากอิ่มเอมกับวิวทิวทัศน์อันสวยงามของจังหวัดสมุทรปราการแล้ว ลงมาจากหอชมเมืองไม่ไกล จะเป็นช่วงเวลาของการชอปปิ้งในตลาดปากน้ำ มีขายทุกสิ่งอย่าง ตลาดได้รับการพัฒนาและปรับปรุงทำให้เดินจับจ่ายซื้อของได้ง่าย อีกทั้งยังสะอาด โดยเฉพาะอาหารทะเลที่นี่ราคาไม่แพง รวมไปถึงอาหารปรุงสำเร็จ ขนมต่าง ๆ ก็มีให้เลือกสรรมากมาย

ป้อมพระจุลจอมเกล้า
ป้อมพระจุลจอมเกล้า
ที่มา: สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสมุทรปราการ

ชอปปิ้งให้ครบจบที่ตลาดปากน้ำ ก็หิ้วของกลับมาขึ้นเรือเพื่อไปยังปากแม่น้ำเจ้าพระยา และเป็นที่ตั้งของป้อมพระจุลจอมเกล้า โบราณสถานสำคัญอีกแห่งของประเทศไทย สร้างขึ้นเพื่อป้องกันการรุกรานของกองเรืออังกฤษและฝรั่งเศส ป้อมแห่งนี้สร้างเป็นป้อมปืนใหญ่แบบตะวันตก และได้ติดตั้งปืนใหญ่อาร์มสตรอง 155 มม. จำนวน 7 กระบอกเป็นอาวุธหลักของป้อม ทำให้ป้อมนี้เป็นป้อมปราการของสยามที่ทันสมัยมากที่สุดในเวลานั้น บริเวณเดียวกันนี้ยังมีเรือรบหลวงแม่กลอง ซึ่งเป็นเรือรบที่ประจำการยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์กองทัพเรือไทย อีกทั้งยังเป็นเรือรบที่มีความเก่าแก่เป็นอันดับ 2 ของโลก โดยประจำการถึง 60 ปี (พ.ศ. 2480-2539) จึงปลดประจำการ เมื่อวันที่ 25 กรกฏาคม พ.ศ. 2539  และได้รับการอนุรักษ์ไว้ ณ แหลมฟ้าผ่า แห่งนี้ ใกล้ ๆ กันยังมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติป่าชายเลนอีกด้วย แต่ก่อนที่จะแล่นเรือขึ้นกลับไปยังท่าน้ำวัดบางหัวเสือ มีอีกสถานที่ที่อยากให้แวะชมวิวยามเย็นหรือชมพระอาทิตย์ตก นั่นก็คือจุดชมวิวปากแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ตั้งอยู่ฝั่งตรงกันข้ามกับป้อมพระจุลจอมเกล้า ใช้เวลาเดินทางเพียง 10 นาที สามารถนั่งชมวิวได้ที่ศาลาริมน้ำได้เลย

กฟผ. ใช้คุกกี้ที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการทำงานของเว็บไซต์ และ กฟผ. จะใช้คุกกี้ทางเลือกเพื่อการวิเคราะห์ พัฒนา และปรับปรุงเว็บไซต์ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เมื่อได้รับอนุญาตจากท่าน ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมที่ นโยบายการใช้คุกกี้ของ กฟผ. และ นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล กฟผ. นโยบายความเป็นส่วนตัว